support category ssd
NV2 SSD (SNV2S)

NV2 PCIe 4.0 NVMe SSD - การสนับสนุน

วิดีโอ

How to Install an M.2 SSD in a Desktop PC 1:10

วิธีการติดตั้ง M.2 SSD ใน PC เดสก์ทอป

How to Install an M.2 SSD in a Laptop 1:29

วิธีการติดตั้ง M.2 SSD ในโน้ตบุ๊ก

คำถามที่พบบ่อย

เป็นไปได้ว่ามีปัญหาความเข้ากันได้ โปรดแก้ปัญหาโดยใช้วิธีต่อไปนี้

1. ดาวน์โหลด Kingston SSD Manager จากเว็บไซต์ https://www.kingston.com/support/technical/ssdmanager เพื่อดูว่าไดรฟ์ต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์หรือไม่ ถ้าใช่ อัปเดตให้เสร็จเรียบร้อย (ถ้าระบบแนะนำ)
2. อ่านหน้าการสนับสนุนของผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ แล้วตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต้องอัปเดต BIOS หรือไม่
3. ตรวจสอบยืนยันว่าคุณกำลังใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอยู่หรือไม่ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการอัปเดตที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
4. ตรวจสอบยืนยันว่าคุณกำลังใช้งานไดรเวอร์เวอร์ชันล่าสุดของอุปกรณ์ โดยการเข้าไปที่หน้าการสนับสนุนของผู้ผลิตอุปกรณ์ จากนั้นมองหาการอัปเดตไดรเวอร์ล่าสุด

หากคุณยังเจอปัญหาหลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิคของ Kingston

FAQ: KSD-012010-001-21

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ทั้งในกรณีของ SSD แบบภายในและไดรฟ์ USB แบบต่อพ่วง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตหน่วยความจำแฟลชและผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์แบบจานหมุนมีวิธีคำนวณเมกะไบต์ที่แตกต่างกัน ผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์คำนวณเมกะไบต์ (หรือ 1,000x1,000 ไบต์) เป็น 1,000KB ส่วนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชคำนวณแบบไบนารีหรือก็คือ 1,024KB

ตัวอย่าง: สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช 1TB Windows จะคำนวณความจุเท่ากับ 931.32GB (1,000,000,000,000÷1,024÷1,024÷1,024=931.32GB)

นอกจากนี้ Kingston ยังกันพื้นที่หน่วยความจำบางส่วนไว้ใช้ในการฟอร์แมตและวัตถุประสงค์อย่างอื่น เช่น เฟิร์มแวร์และ/หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวควบคุม ดังนั้นพื้นที่ส่วนนี้จึงไม่สามารถใช้จัดเก็บข้อมูลได้

FAQ: KDT-010611-GEN-06

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

หากต้องการตรวจสอบว่ากำลังใช้ไดรเวอร์ NVMe ตัวใดอยู่ สามารถเรียกใช้เครื่องมือเปรียบเทียบ AS SSD จากนั้นเลือก Kingston NVMe SSD ของคุณจากเมนูดรอปดาวน์ ระบบจะแจ้งไดรเวอร์ที่ไดรฟ์ดังกล่าวใช้งานอยู่ หากไดรเวอร์ที่ใช้คือ “iaStorAC” แสดงว่าไดรฟ์ของคุณกำลังใช้งานไดรเวอร์ Intel อยู่ หากไดรเวอร์ที่ใช้คือ “stornvme” แสดงว่าไดรฟ์ของคุณกำลังใช้งานไดรเวอร์ Microsoft หมายเหตุ: ไดรฟ์ NVMe ของ Kingston มาพร้อมคุณสมบัติ Plug and Play เราจึงไม่ได้จัดเตรียมไดรเวอร์เพิ่มเติม

FAQ: KSD-001525-001-00

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เลือกลิงก์ต่อไปนี้เพื่อดูวิธีติดตั้ง M.2 SSD  https://www.kingston.com/blog/personal-storage/install-m2-ssd

FAQ: KSD-012010-001-00

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เลือกลิงก์ต่อไปนี้เพื่อดูวิธีติดตั้ง M.2 SSD กับ Playstation 5  https://www.kingston.com/blog/gaming/ps5-ssd-nvme-m2-install

FAQ: KSD-012010-001-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้ SSD ตัวใหม่กลายเป็นบู๊ตไดรฟ์ก็คือทำให้ SSD นั้นเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพียงตัวเดียวในระหว่างการติดตั้ง
แต่หากทำแบบนั้นไม่ได้หรือหากคุณเคยโคลนข้อมูลเก่าไปยังไดรฟ์นั้นมาก่อน ยืนยันว่าไดรฟ์ใหม่ปรากฏเป็นอุปกรณ์บู๊ตใน BIOS ของระบบ จากนั้นเลือกไดรฟ์นั้นระหว่างการบู๊ตเครื่อง

FAQ: KSD-012010-001-03

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไดรฟ์ตัวใหม่อาจไม่ยอมให้ติดตั้ง OS เพราะหลายสาเหตุ คุณสามารถใช้ขั้นตอนต่อไปนี้แก้ไขปัญหาการติดตั้ง

-ยืนยันว่า BIOS ของระบบรู้จัก SSD ตัวใหม่ แต่ถ้าไม่รู้จัก เข้าไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด / ระบบ เพื่อดูว่ามี BIOS ใหม่ล่าสุดหรือไม่
-ตรวจสอบว่า BIOS ได้รับการกำหนดค่าให้ยอมรับ NVMe SSD ตัวใหม่
-ยืนยันว่าระบบปฏิบัติการที่จะติดตั้งนั้นยอมรับ NVMe SSD (เช่น Windows 8 หรือใหม่กว่า)

หมายเหตุ: Kingston SSD ไม่ต้องใช้ไดรเวอร์เพิ่มเติมในการทำงาน

FAQ: KSD-012010-001-05

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ปกติแล้ว Windows 7 ไม่รองรับ NVMe SSD หากคุณต้องการติดตั้ง Windows 7 ลงใน NVMe SSD ดูคำอธิบายแพ็กเกจแก้ไขด่วนของ Microsoft นี้

https://support.microsoft.com/en-us/topic/update-to-add-native-driver-support-in-nvm-express-in-windows-7-and-windows-server-2008-r2-03cd423b-d42e-66c2-722b-019d16455a6b

FAQ: KSD-012010-001-06

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไม่ต้อง Kingston NVMe SSD ไม่ต้องใช้ไดรเวอร์ NVMe พิเศษแต่อย่างใด แค่ไดรเวอร์ที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติ Windows 8 หรือใหม่กว่าก็เพียงพอแล้ว

FAQ: KSD-012010-001-07

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

อันดับแรก คุณควรตรวจสอบยืนยันก่อนว่าระบบมองเห็น SSD ใน BIOS โดยเข้าสู่ BIOS (ส่วนใหญ่ต้องใช้ปุ่ม Del, F2, F10 หรือ F12) จากนั้นไปที่เมนูการกำหนดค่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และดูว่าไดรฟ์ปรากฎอยู่หรือไม่และระบุอย่างถูกต้องหรือไม่  หากไม่มีไดรฟ์ปรากฏอยู่ ให้ปิดเครื่อง ตรวจสอบการติดตั้งและการเชื่อมต่อไดรฟ์ ยืนยันว่าไดรฟ์ติดตั้งเข้าที่ดีแล้วและ/หรือเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง

หากเจอไดรฟ์ใน BIOS คุณอาจจะต้องเริ่มการทำงานของไดรฟ์ภายในระบบปฏิบัติการ

สำหรับ Windows:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Windows OS
ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม Windows + X แล้วเลือก Disk Management
ขั้นตอนที่ 3: หากเป็น SSD ใหม่ที่ยังไม่ได้เริ่มใช้งาน หน้าต่างป๊อปอัปจะปรากฏขึ้นมา พร้อมข้อความ "Initialize Disk"
ขั้นตอนที่ 4: เลือกระหว่าง
MBR (Master Boot Record): เหมาะกับไดรฟ์ที่มีความจุไม่ถึง 2TB และอุปกรณ์แบบเก่า
GPT (GUID Partition Table): แนะนำสำหรับอุปกรณ์สมัยใหม่และไดรฟ์ที่มีความจุมากกว่า 2TB
ขั้นตอนที่ 5: คลิก “OK” เพื่อเริ่มการทำงานของดิสก์
ขั้นตอนที่ 6: หลังจากเริ่มการทำงาน คุณจะเห็นว่า SSD ของคุณเป็น "Unallocated” ให้คลิกขวา แล้วเลือก New Simple Volume
ขั้นตอนที่ 7: ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อฟอร์แม็ตและกำหนดตัวอักษรระบุไดรฟ์ให้กับ SSD

สำหรับ Mac OS:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Mac OS
ขั้นตอนที่ 2: เปิด Disk Utility (โดยใช้ Spotlight ร่วมกับปุ่ม Cmd + Space จากนั้นพิมพ์ "Disk Utility")
ขั้นตอนที่ 3: เลือก SSD ของคุณจากแผงทางซ้ายมือ
ขั้นตอนที่ 4: คลิก Erase
ขั้นตอนที่ 5: ตั้งชื่อไดรฟ์ จากนั้นเลือกตัวเลือกต่อไปนี้ใต้ Format
APFS หากเป็น Mac รุ่นเก่าและ SSD
Mac OS Extended (Journaled) หากเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือ HDD
ขั้นตอนที่ 6: คลิก Erase หลังจากนั้น SSD ก็จะพร้อมใช้งาน

สำหรับ Linux:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Linux
ขั้นตอนที่ 2: เปิดเทอร์มินัล
ขั้นตอนที่ 3: ป้อนคำสั่ง sudo fdisk -l เพื่อแสดงไดรฟ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่ มองหา SSD ของคุณจากขนาดของไดรฟ์ แล้วจดชื่อของไดรฟ์ไว้ เช่น /dev/sdb
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มการทำงานของไดรฟ์โดยใช้คำสั่ง fdisk หรือ parted ต่อไปนี้คือคำแนะนำเบื้องต้นในการใช้คำสั่ง fdisk:
ป้อน sudo fdisk /dev/sdb (แทนที่ /dev/sdb ด้วยชื่อไดรฟ์ SSD ของคุณ)
กด g เพื่อสร้างตารางพาร์ติชัน GPT ใหม่
กด n เพื่อสร้างตารางพาร์ติชันใหม่ ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อระบุขนาดและประเภทไดรฟ์
กด w เพื่อเขียนการเปลี่ยนแปลง
ขั้นตอนที่ 5: กำหนดรูปแบบพาร์ติชันใหม่บน SSD (เช่น /dev/sdb1) คุณสามารถกำหนดรูปแบบเป็นระบบไฟล์ที่ต้องการดังต่อไปนี้:
สำหรับ ext4: sudo mkfs.ext4 /dev/sdb1
สำหรับ ext3: sudo mkfs.ext3 /dev/sdb1
สำหรับ FAT32: sudo mkfs.vfat /dev/sdb1
ขั้นตอนที่ 6: ติดตั้งใช้งาน SSD:
สร้างจุดติดตั้งใช้งาน: sudo mkdir /mnt/myssd
ติดตั้งใช้งาน SSD: sudo mount /dev/sdb1 /mnt/myssd
อย่าลืมแทนที่ /dev/sdb1 ด้วยชื่อพาร์ติชันของ SSD

FAQ: KSD-012010-001-15

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

กล่องดิสก์แบบต่อพ่วงมีอยู่มากมายในท้องตลาด ถึงแม้ว่า Kingston จะต้องการให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานกับระบบทุกประเภท แต่บางครั้งผลิตภัณฑ์ของเราก็ใช้งานกับบางระบบไม่ได้ หากคุณประสบปัญหาในการใช้งานกล่อง SSD แบบต่อพ่วง คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นกล่องชนิดใหม่

FAQ: KSD-012010-001-18

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

โปรดดูโพสต์นี้ ซึ่งมีการพูดถึงเทคโนโลยี M.2 
https://www.kingston.com/blog/pc-performance/two-types-m2-vs-ssd

FAQ: KSD-012010-001-16

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เฟิร์มแวร์ SSD คือซอฟต์แวร์ที่อยู่ใน SSD และทำหน้าที่จัดการการทำงานของไดรฟ์ รวมทั้งสื่อสารกับระบบโฮสต์ จัดเก็บและเรียกค้นข้อมูล ปรับระดับความสึกหรอให้เสมอกัน และแก้ไขข้อผิดพลาด Kingston แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

หาก SSD ของคุณต้องอัปเดตเป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุด คุณจะได้รับการแจ้งเตือนตอนที่เปิดซอฟต์แวร์ SSD Manager ของ Kingston ดูได้จากที่นี่: www.kingston.com/ssdmanager

FAQ: KSD-012010-001-11

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

M.2 เป็นฟอร์มแฟคเตอร์ทางกายภาพ SATA และ PCIe คืออินเทอร์เฟซสำหรับสื่อบันทึกข้อมูล ข้อแตกต่างหลัก ๆ คือประสิทธิภาพและโปรโตคอล (ภาษา) ที่ใช้โดย M.2 SSD

รายละเอียดทางเทคนิคของ M.2 ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งอินเทอร์เฟซ SATA และ PCIe สำหรับ SSD M.2 SATA SSD จะใช้ชุดควบคุมเดียวกับที่ใช้ใน SATA SSD ขนาด 2.5 นิ้วในปัจจุบัน M.2 PCIe SSD จะใช้ชุดควบคุมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรองรับโปรโตคอล PCIe M.2 SSD รองรับโปรโตคอลเพียงแบบเดียว แต่เครื่องบางเครื่องอาจมีซ็อคเก็ต M.2 ที่รองรับทั้ง SATA หรือ PCIe

FAQ: KSD-004005-001-00

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

คลิกที่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อแตกต่างของ SSD ทั้งสองชนิดนี้
https://www.kingston.com/blog/pc-performance/nvme-vs-sata

FAQ: KSD-012010-001-19

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เมื่อคุณโคลนข้อมูลไปยังไดรฟ์ใหม่ที่มีความจุมากกว่าไดรฟ์ต้นทาง ซอฟต์แวร์อาจจะคำนวณขนาดพาร์ติชันไม่ถูกต้อง หากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สุดท้ายก็จะเหลือพื้นที่ที่ได้ไม่ได้นำมาใช้งาน หากต้องการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ โปรดทำตามคำแนะนำการโคลนของเราที่นี่: www.kingston.com/cloning

FAQ: KSD-012010-001-04

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เฟิร์มแวร์ SSD คือซอฟต์แวร์ที่อยู่ใน SSD และทำหน้าที่จัดการการทำงานของไดรฟ์ รวมทั้งสื่อสารกับระบบโฮสต์ จัดเก็บและเรียกค้นข้อมูล ปรับระดับความสึกหรอให้เสมอกัน และแก้ไขข้อผิดพลาด Kingston แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

หาก SSD ของคุณต้องอัปเดตเป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุด คุณจะได้รับการแจ้งเตือนตอนที่เปิดซอฟต์แวร์ SSD Manager ของ Kingston ดูได้จากที่นี่: www.kingston.com/ssdmanager

FAQ: KSD-012010-001-11

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ปัจจุบัน Kingston ยังไม่มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ใน DOS

FAQ: KSD-012010-001-12

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

การอัปเดต SSD จะไม่ลบข้อมูลออกจากไดรฟ์ ยกเว้นมีการระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ก่อนจะอัปเดตเฟิร์มแวร์ SSD แต่ละครั้ง Kingston แนะนำให้สำรองข้อมูลทั้งหมดในไดรฟ์นั้นก่อน แล้วค่อยทำการอัปเดตเฟิร์มแวร์

FAQ: KSD-012010-001-13

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

คุณสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของไดรฟ์ผ่านกล่อง USB ได้ แต่ Kingston ไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น ขั้นตอนการอัปเดตที่ถูกต้องจำเป็นต้องเชื่อมต่อ SSD เป้าหมายเข้ากับพอร์ตของระบบ (เช่น SATA หรือ NVMe) โดยตรง

FAQ: KSD-012010-001-14

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เมื่อคุณโคลนข้อมูลไปยังไดรฟ์ใหม่ที่มีความจุมากกว่าไดรฟ์ต้นทาง ซอฟต์แวร์อาจจะคำนวณขนาดพาร์ติชันไม่ถูกต้อง หากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สุดท้ายก็จะเหลือพื้นที่ที่ได้ไม่ได้นำมาใช้งาน หากต้องการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ โปรดทำตามคำแนะนำการโคลนของเราที่นี่: www.kingston.com/cloning

FAQ: KSD-012010-001-04

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไดรฟ์ตัวใหม่อาจไม่ยอมให้ติดตั้ง OS เพราะหลายสาเหตุ คุณสามารถใช้ขั้นตอนต่อไปนี้แก้ไขปัญหาการติดตั้ง

-ยืนยันว่า BIOS ของระบบรู้จัก SSD ตัวใหม่ แต่ถ้าไม่รู้จัก เข้าไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด / ระบบ เพื่อดูว่ามี BIOS ใหม่ล่าสุดหรือไม่
-ตรวจสอบว่า BIOS ได้รับการกำหนดค่าให้ยอมรับ NVMe SSD ตัวใหม่
-ยืนยันว่าระบบปฏิบัติการที่จะติดตั้งนั้นยอมรับ NVMe SSD (เช่น Windows 8 หรือใหม่กว่า)

หมายเหตุ: Kingston SSD ไม่ต้องใช้ไดรเวอร์เพิ่มเติมในการทำงาน

FAQ: KSD-012010-001-05

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

อันดับแรก คุณควรตรวจสอบยืนยันก่อนว่าระบบมองเห็น SSD ใน BIOS โดยเข้าสู่ BIOS (ส่วนใหญ่ต้องใช้ปุ่ม Del, F2, F10 หรือ F12) จากนั้นไปที่เมนูการกำหนดค่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และดูว่าไดรฟ์ปรากฎอยู่หรือไม่และระบุอย่างถูกต้องหรือไม่  หากไม่มีไดรฟ์ปรากฏอยู่ ให้ปิดเครื่อง ตรวจสอบการติดตั้งและการเชื่อมต่อไดรฟ์ ยืนยันว่าไดรฟ์ติดตั้งเข้าที่ดีแล้วและ/หรือเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง

หากเจอไดรฟ์ใน BIOS คุณอาจจะต้องเริ่มการทำงานของไดรฟ์ภายในระบบปฏิบัติการ

สำหรับ Windows:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Windows OS
ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม Windows + X แล้วเลือก Disk Management
ขั้นตอนที่ 3: หากเป็น SSD ใหม่ที่ยังไม่ได้เริ่มใช้งาน หน้าต่างป๊อปอัปจะปรากฏขึ้นมา พร้อมข้อความ "Initialize Disk"
ขั้นตอนที่ 4: เลือกระหว่าง
MBR (Master Boot Record): เหมาะกับไดรฟ์ที่มีความจุไม่ถึง 2TB และอุปกรณ์แบบเก่า
GPT (GUID Partition Table): แนะนำสำหรับอุปกรณ์สมัยใหม่และไดรฟ์ที่มีความจุมากกว่า 2TB
ขั้นตอนที่ 5: คลิก “OK” เพื่อเริ่มการทำงานของดิสก์
ขั้นตอนที่ 6: หลังจากเริ่มการทำงาน คุณจะเห็นว่า SSD ของคุณเป็น "Unallocated” ให้คลิกขวา แล้วเลือก New Simple Volume
ขั้นตอนที่ 7: ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อฟอร์แม็ตและกำหนดตัวอักษรระบุไดรฟ์ให้กับ SSD

สำหรับ Mac OS:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Mac OS
ขั้นตอนที่ 2: เปิด Disk Utility (โดยใช้ Spotlight ร่วมกับปุ่ม Cmd + Space จากนั้นพิมพ์ "Disk Utility")
ขั้นตอนที่ 3: เลือก SSD ของคุณจากแผงทางซ้ายมือ
ขั้นตอนที่ 4: คลิก Erase
ขั้นตอนที่ 5: ตั้งชื่อไดรฟ์ จากนั้นเลือกตัวเลือกต่อไปนี้ใต้ Format
APFS หากเป็น Mac รุ่นเก่าและ SSD
Mac OS Extended (Journaled) หากเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือ HDD
ขั้นตอนที่ 6: คลิก Erase หลังจากนั้น SSD ก็จะพร้อมใช้งาน

สำหรับ Linux:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Linux
ขั้นตอนที่ 2: เปิดเทอร์มินัล
ขั้นตอนที่ 3: ป้อนคำสั่ง sudo fdisk -l เพื่อแสดงไดรฟ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่ มองหา SSD ของคุณจากขนาดของไดรฟ์ แล้วจดชื่อของไดรฟ์ไว้ เช่น /dev/sdb
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มการทำงานของไดรฟ์โดยใช้คำสั่ง fdisk หรือ parted ต่อไปนี้คือคำแนะนำเบื้องต้นในการใช้คำสั่ง fdisk:
ป้อน sudo fdisk /dev/sdb (แทนที่ /dev/sdb ด้วยชื่อไดรฟ์ SSD ของคุณ)
กด g เพื่อสร้างตารางพาร์ติชัน GPT ใหม่
กด n เพื่อสร้างตารางพาร์ติชันใหม่ ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อระบุขนาดและประเภทไดรฟ์
กด w เพื่อเขียนการเปลี่ยนแปลง
ขั้นตอนที่ 5: กำหนดรูปแบบพาร์ติชันใหม่บน SSD (เช่น /dev/sdb1) คุณสามารถกำหนดรูปแบบเป็นระบบไฟล์ที่ต้องการดังต่อไปนี้:
สำหรับ ext4: sudo mkfs.ext4 /dev/sdb1
สำหรับ ext3: sudo mkfs.ext3 /dev/sdb1
สำหรับ FAT32: sudo mkfs.vfat /dev/sdb1
ขั้นตอนที่ 6: ติดตั้งใช้งาน SSD:
สร้างจุดติดตั้งใช้งาน: sudo mkdir /mnt/myssd
ติดตั้งใช้งาน SSD: sudo mount /dev/sdb1 /mnt/myssd
อย่าลืมแทนที่ /dev/sdb1 ด้วยชื่อพาร์ติชันของ SSD

FAQ: KSD-012010-001-15

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

กล่องดิสก์แบบต่อพ่วงมีอยู่มากมายในท้องตลาด ถึงแม้ว่า Kingston จะต้องการให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานกับระบบทุกประเภท แต่บางครั้งผลิตภัณฑ์ของเราก็ใช้งานกับบางระบบไม่ได้ หากคุณประสบปัญหาในการใช้งานกล่อง SSD แบบต่อพ่วง คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นกล่องชนิดใหม่

FAQ: KSD-012010-001-18

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

โปรดดูโพสต์นี้ ซึ่งมีการพูดถึงเทคโนโลยี M.2 
https://www.kingston.com/blog/pc-performance/two-types-m2-vs-ssd

FAQ: KSD-012010-001-16

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เมื่อคุณโคลนข้อมูลไปยังไดรฟ์ใหม่ที่มีความจุมากกว่าไดรฟ์ต้นทาง ซอฟต์แวร์อาจจะคำนวณขนาดพาร์ติชันไม่ถูกต้อง หากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สุดท้ายก็จะเหลือพื้นที่ที่ได้ไม่ได้นำมาใช้งาน หากต้องการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ โปรดทำตามคำแนะนำการโคลนของเราที่นี่: www.kingston.com/cloning

FAQ: KSD-012010-001-04

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เลือกลิงก์ต่อไปนี้เพื่อดูวิธีติดตั้ง M.2 SSD  https://www.kingston.com/blog/personal-storage/install-m2-ssd

FAQ: KSD-012010-001-00

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เลือกลิงก์ต่อไปนี้เพื่อดูวิธีติดตั้ง M.2 SSD กับ Playstation 5  https://www.kingston.com/blog/gaming/ps5-ssd-nvme-m2-install

FAQ: KSD-012010-001-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้ SSD ตัวใหม่กลายเป็นบู๊ตไดรฟ์ก็คือทำให้ SSD นั้นเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพียงตัวเดียวในระหว่างการติดตั้ง
แต่หากทำแบบนั้นไม่ได้หรือหากคุณเคยโคลนข้อมูลเก่าไปยังไดรฟ์นั้นมาก่อน ยืนยันว่าไดรฟ์ใหม่ปรากฏเป็นอุปกรณ์บู๊ตใน BIOS ของระบบ จากนั้นเลือกไดรฟ์นั้นระหว่างการบู๊ตเครื่อง

FAQ: KSD-012010-001-03

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไดรฟ์ตัวใหม่อาจไม่ยอมให้ติดตั้ง OS เพราะหลายสาเหตุ คุณสามารถใช้ขั้นตอนต่อไปนี้แก้ไขปัญหาการติดตั้ง

-ยืนยันว่า BIOS ของระบบรู้จัก SSD ตัวใหม่ แต่ถ้าไม่รู้จัก เข้าไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด / ระบบ เพื่อดูว่ามี BIOS ใหม่ล่าสุดหรือไม่
-ตรวจสอบว่า BIOS ได้รับการกำหนดค่าให้ยอมรับ NVMe SSD ตัวใหม่
-ยืนยันว่าระบบปฏิบัติการที่จะติดตั้งนั้นยอมรับ NVMe SSD (เช่น Windows 8 หรือใหม่กว่า)

หมายเหตุ: Kingston SSD ไม่ต้องใช้ไดรเวอร์เพิ่มเติมในการทำงาน

FAQ: KSD-012010-001-05

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ปกติแล้ว Windows 7 ไม่รองรับ NVMe SSD หากคุณต้องการติดตั้ง Windows 7 ลงใน NVMe SSD ดูคำอธิบายแพ็กเกจแก้ไขด่วนของ Microsoft นี้

https://support.microsoft.com/en-us/topic/update-to-add-native-driver-support-in-nvm-express-in-windows-7-and-windows-server-2008-r2-03cd423b-d42e-66c2-722b-019d16455a6b

FAQ: KSD-012010-001-06

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

กล่องดิสก์แบบต่อพ่วงมีอยู่มากมายในท้องตลาด ถึงแม้ว่า Kingston จะต้องการให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานกับระบบทุกประเภท แต่บางครั้งผลิตภัณฑ์ของเราก็ใช้งานกับบางระบบไม่ได้ หากคุณประสบปัญหาในการใช้งานกล่อง SSD แบบต่อพ่วง คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นกล่องชนิดใหม่

FAQ: KSD-012010-001-18

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

อันดับแรก คุณควรตรวจสอบยืนยันก่อนว่าระบบมองเห็น SSD ใน BIOS โดยเข้าสู่ BIOS (ส่วนใหญ่ต้องใช้ปุ่ม Del, F2, F10 หรือ F12) จากนั้นไปที่เมนูการกำหนดค่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และดูว่าไดรฟ์ปรากฎอยู่หรือไม่และระบุอย่างถูกต้องหรือไม่  หากไม่มีไดรฟ์ปรากฏอยู่ ให้ปิดเครื่อง ตรวจสอบการติดตั้งและการเชื่อมต่อไดรฟ์ ยืนยันว่าไดรฟ์ติดตั้งเข้าที่ดีแล้วและ/หรือเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง

หากเจอไดรฟ์ใน BIOS คุณอาจจะต้องเริ่มการทำงานของไดรฟ์ภายในระบบปฏิบัติการ

สำหรับ Windows:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Windows OS
ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม Windows + X แล้วเลือก Disk Management
ขั้นตอนที่ 3: หากเป็น SSD ใหม่ที่ยังไม่ได้เริ่มใช้งาน หน้าต่างป๊อปอัปจะปรากฏขึ้นมา พร้อมข้อความ "Initialize Disk"
ขั้นตอนที่ 4: เลือกระหว่าง
MBR (Master Boot Record): เหมาะกับไดรฟ์ที่มีความจุไม่ถึง 2TB และอุปกรณ์แบบเก่า
GPT (GUID Partition Table): แนะนำสำหรับอุปกรณ์สมัยใหม่และไดรฟ์ที่มีความจุมากกว่า 2TB
ขั้นตอนที่ 5: คลิก “OK” เพื่อเริ่มการทำงานของดิสก์
ขั้นตอนที่ 6: หลังจากเริ่มการทำงาน คุณจะเห็นว่า SSD ของคุณเป็น "Unallocated” ให้คลิกขวา แล้วเลือก New Simple Volume
ขั้นตอนที่ 7: ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อฟอร์แม็ตและกำหนดตัวอักษรระบุไดรฟ์ให้กับ SSD

สำหรับ Mac OS:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Mac OS
ขั้นตอนที่ 2: เปิด Disk Utility (โดยใช้ Spotlight ร่วมกับปุ่ม Cmd + Space จากนั้นพิมพ์ "Disk Utility")
ขั้นตอนที่ 3: เลือก SSD ของคุณจากแผงทางซ้ายมือ
ขั้นตอนที่ 4: คลิก Erase
ขั้นตอนที่ 5: ตั้งชื่อไดรฟ์ จากนั้นเลือกตัวเลือกต่อไปนี้ใต้ Format
APFS หากเป็น Mac รุ่นเก่าและ SSD
Mac OS Extended (Journaled) หากเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือ HDD
ขั้นตอนที่ 6: คลิก Erase หลังจากนั้น SSD ก็จะพร้อมใช้งาน

สำหรับ Linux:
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว จากนั้นเปิดเครื่องและบู๊ตเครื่องเข้าสู่ Linux
ขั้นตอนที่ 2: เปิดเทอร์มินัล
ขั้นตอนที่ 3: ป้อนคำสั่ง sudo fdisk -l เพื่อแสดงไดรฟ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่ มองหา SSD ของคุณจากขนาดของไดรฟ์ แล้วจดชื่อของไดรฟ์ไว้ เช่น /dev/sdb
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มการทำงานของไดรฟ์โดยใช้คำสั่ง fdisk หรือ parted ต่อไปนี้คือคำแนะนำเบื้องต้นในการใช้คำสั่ง fdisk:
ป้อน sudo fdisk /dev/sdb (แทนที่ /dev/sdb ด้วยชื่อไดรฟ์ SSD ของคุณ)
กด g เพื่อสร้างตารางพาร์ติชัน GPT ใหม่
กด n เพื่อสร้างตารางพาร์ติชันใหม่ ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อระบุขนาดและประเภทไดรฟ์
กด w เพื่อเขียนการเปลี่ยนแปลง
ขั้นตอนที่ 5: กำหนดรูปแบบพาร์ติชันใหม่บน SSD (เช่น /dev/sdb1) คุณสามารถกำหนดรูปแบบเป็นระบบไฟล์ที่ต้องการดังต่อไปนี้:
สำหรับ ext4: sudo mkfs.ext4 /dev/sdb1
สำหรับ ext3: sudo mkfs.ext3 /dev/sdb1
สำหรับ FAT32: sudo mkfs.vfat /dev/sdb1
ขั้นตอนที่ 6: ติดตั้งใช้งาน SSD:
สร้างจุดติดตั้งใช้งาน: sudo mkdir /mnt/myssd
ติดตั้งใช้งาน SSD: sudo mount /dev/sdb1 /mnt/myssd
อย่าลืมแทนที่ /dev/sdb1 ด้วยชื่อพาร์ติชันของ SSD

FAQ: KSD-012010-001-15

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

คุณสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของไดรฟ์ผ่านกล่อง USB ได้ แต่ Kingston ไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น ขั้นตอนการอัปเดตที่ถูกต้องจำเป็นต้องเชื่อมต่อ SSD เป้าหมายเข้ากับพอร์ตของระบบ (เช่น SATA หรือ NVMe) โดยตรง

FAQ: KSD-012010-001-14

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

การอัปเดต SSD จะไม่ลบข้อมูลออกจากไดรฟ์ ยกเว้นมีการระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ก่อนจะอัปเดตเฟิร์มแวร์ SSD แต่ละครั้ง Kingston แนะนำให้สำรองข้อมูลทั้งหมดในไดรฟ์นั้นก่อน แล้วค่อยทำการอัปเดตเฟิร์มแวร์

FAQ: KSD-012010-001-13

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ปัจจุบัน Kingston ยังไม่มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ใน DOS

FAQ: KSD-012010-001-12

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เฟิร์มแวร์ SSD คือซอฟต์แวร์ที่อยู่ใน SSD และทำหน้าที่จัดการการทำงานของไดรฟ์ รวมทั้งสื่อสารกับระบบโฮสต์ จัดเก็บและเรียกค้นข้อมูล ปรับระดับความสึกหรอให้เสมอกัน และแก้ไขข้อผิดพลาด Kingston แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

หาก SSD ของคุณต้องอัปเดตเป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุด คุณจะได้รับการแจ้งเตือนตอนที่เปิดซอฟต์แวร์ SSD Manager ของ Kingston ดูได้จากที่นี่: www.kingston.com/ssdmanager

FAQ: KSD-012010-001-11

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไม่ต้อง Kingston NVMe SSD ไม่ต้องใช้ไดรเวอร์ NVMe พิเศษแต่อย่างใด แค่ไดรเวอร์ที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติ Windows 8 หรือใหม่กว่าก็เพียงพอแล้ว

FAQ: KSD-012010-001-07

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

โปรดดูโพสต์นี้ ซึ่งมีการพูดถึงเทคโนโลยี M.2 
https://www.kingston.com/blog/pc-performance/two-types-m2-vs-ssd

FAQ: KSD-012010-001-16

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Still Need Assistance?

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิค

Monday-Friday 6 a.m.-6 p.m. PT

+1 (800)435-0640