เราสังเกตเห็นว่าคุณกําลังเยี่ยมชมเว็บไซต์ของสหราชอาณาจักร คุณต้องการเยี่ยมชมเว็บไซต์หลักของเราแทนหรือไม่?

support category usb
DataTraveler Kyson (DTKN)

DataTraveler Kyson - การสนับสนุน

วิดีโอ

832342139 3:08

การใช้ไดรฟ์ USB กับเครื่อง Mac

832341773 2:52

การใช้งานไดรฟ์ USB กับ Ubuntu Linux

832341957 3:16

การใช้ไดรฟ์ USB กับ Windows PC

คำถามที่พบบ่อย

นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ทั้งในกรณีของ SSD แบบภายในและไดรฟ์ USB แบบต่อพ่วง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตหน่วยความจำแฟลชและผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์แบบจานหมุนมีวิธีคำนวณเมกะไบต์ที่แตกต่างกัน ผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์คำนวณเมกะไบต์ (หรือ 1,000x1,000 ไบต์) เป็น 1,000KB ส่วนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชคำนวณแบบไบนารีหรือก็คือ 1,024KB

ตัวอย่าง: สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช 1TB Windows จะคำนวณความจุเท่ากับ 931.32GB (1,000,000,000,000÷1,024÷1,024÷1,024=931.32GB)

นอกจากนี้ Kingston ยังกันพื้นที่หน่วยความจำบางส่วนไว้ใช้ในการฟอร์แมตและวัตถุประสงค์อย่างอื่น เช่น เฟิร์มแวร์และ/หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวควบคุม ดังนั้นพื้นที่ส่วนนี้จึงไม่สามารถใช้จัดเก็บข้อมูลได้

FAQ: KDT-010611-GEN-06

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Windows อาจไม่รู้จักไฟล์ MacOS Extended หรือแบบมาตรฐาน แก้ไขโดยฟอร์แมตไดรฟ์ใน macOS ด้วย MacOS DOS หรือระบบไฟล์ exFAT เพื่อให้สามารถใช้ได้กับทั้งสองระบบ

คำเตือน: การฟอร์แมตเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดใน DataTraveler สำรองข้อมูลของคุณก่อนดำเนินการต่อ

  1. เสียบ DataTraveler เข้ากับเครื่อง macOS จากนั้นรอจนกระทั่งเชื่อมต่อ
  2. คลิกที่ "GO" จากแถบเมนู
  3. ดับเบิลคลิกที่ Utilities (หากไม่พบ Utilities ให้ดับเบิลคลิกที่ Applications จากนั้นดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ Utilities)
  4. ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Disk Utility
  5. จากกล่องโต้ตอบ Disk Utility คลิกหนึ่งครั้งที่พาร์ติชั่นใช้งานของ Kingston DataTraveler
  6. หมายเหตุ: จะมีรายการสองชุดสำหรับ DataTraveler ชุดแรกเป็นพาร์ติชั่นใช้งานและชุดที่สองเป็นป้ายกำกับไดรฟ์
  7. คลิกแท็บลบด้านขวาของหน้าจอ
  8. ใช้ส่วนแสดงรายการ Volume Format เลือก "MS-DOS File System" หรือ "exFAT” จากรายการ
  9. คลิก Erase
หมายเหตุ: macOS 10.6.5 ขึ้นไปสามารถอ่านและเขียนไดรฟ์ exFAT ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ macOS ยังสามารถอ่านอย่างเดียวในไดรฟ์ NTFS ได้

อุปกรณ์บางตัว (เครื่องเล่น MP3 กรอบภาพดิจิตอล ฯลฯ) ไม่สามารถอ่านไฟล์ NFTS หรือ exFAT ได้

นอกจากนี้จะต้องอัปเดต Windows XP และ Vista เพื่อให้สามารถค้นข้อมูล exFAT ได้


FAQ: KDT-010611-GEN-18

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เมื่อคุณลบไฟล์ออกจากไดรฟ์ขณะต่อไดรฟ์เข้ากับระบบ macOS ระบบ macOS จะสำรองไฟล์เหล่านั้นเอาไว้เพื่อให้คุณกู้คืนไฟล์กลับมาได้หากคุณเผลอลบโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังทำให้ macOS กันพื้นที่ส่วนหนึ่งในไดรฟ์เผื่อไว้ในกรณีที่คุณต้องการกู้ไฟล์ดังกล่าว ดังนั้น หากคุณต้องการพื้นที่ว่างในไดรฟ์กลับคืนมา คุณจะต้องลบไฟล์ในถังขยะ macOS ขณะที่เชื่อมต่อไดรฟ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ macOS  

หากไม่ได้ผล ให้ทำการฟอร์แมตอุปกรณ์ โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อฟอร์แมตไดรฟ์ของ Kingston

คำเตือน: การฟอร์แมตเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดของคุณ กรุณาทำสำเนาข้อมูลไว้ก่อนดำเนินการใด ๆ

  1. ไปที่ Go > Applications > Utilities จากนั้นเปิด Disk Utility
  2. เลือกไดรฟ์จากแถบคำสั่งด้านซ้าย จากนั้นคลิก Erase ทางด้านขวา
  3. เลือก Volume Format เลือกระบบไฟล์ MS-DOS หรือ exFAT หากคุณวางแผนจะใช้ไดรฟ์กับ macOS และ Windows หากใช้เฉพาะในเครื่อง Mac ให้เลือก macOS Extended เป็น Volume Format
  4. คลิก Erase

FAQ: KDT-010611-GEN-04

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Our flash drives are plug-n-play devices. Therefore, additional drivers are not required.

FAQ: KDT-110611-GEN-09

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Our flash drives are plug-n-play devices. Therefore, additional drivers are not required.

FAQ: KDT-110611-GEN-09

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อสัมผัสอุปกรณ์ USB แบบต่อพ่วงคุณจะรู้สึกว่าอุปกรณ์อุ่นหรือร้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากปลอกด้านนอกจะช่วยลดอุณหภูมิของส่วนประกอบด้านในโดยการระบายความร้อนออกมา

ตัวอย่างปัจจัยที่ส่งผลให้อุปกรณ์ USB แบบต่อพ่วงมีอุณหภูมิสูงขึ้น

    • วัสดุ: แฟลชไดรฟ์และรีดเดอร์โลหะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีอุณหภูมิสูงกว่าแฟลชไดรฟ์ USB แบบอื่น ๆ ขณะใช้งาน เหตุผลเป็นเพราะโลหะดูดซับความร้อนได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ อย่างเช่นพลาสติก
    • อุณหภูมิแวดล้อม: หากอุปกรณ์โฮสต์หรืออุณหภูมิแวดล้อมสูง การระบายความร้อนของไดรฟ์จะลดลง ดังนั้น ไดรฟ์ USB จะร้อนขึ้นเมื่อใช้งานสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูง
      • การถ่ายโอนไฟล์: การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์จำนวนมากอาจทำให้ไดรฟ์มีอุณหภูมิสูงขึ้นได้เช่นกัน ไฟล์ขนาดใหญ่จะใช้เวลาถ่ายโอนนานกว่า ต้องใช้พลังงานมากกว่า จึงสร้างความร้อนมากกว่าด้วย นอกจากนี้ การถ่ายโอนไฟล์หลายไฟล์ติด ๆ กันจะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกับการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ และทำให้ไดรฟ์มีอุณหภูมิสูงขึ้น ระหว่างการถ่ายโอนไฟล์ ภายในไดรฟ์จะร้อนขึ้น และไดรฟ์จะระบายความร้อนออกมาผ่านปลอกไดรฟ์
    หมายเหตุ: ปัจจัยข้างต้นจะไม่ส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์ USB

    หลังจากถ่ายโอนไฟล์เสร็จ แนะนำให้รอ 30-60 วินาทีก่อนจะดึงไดรฟ์ USB ออกจากเครื่องโฮสต์ เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการระบายความร้อนของไดรฟ์ USB

    FAQ: KTD-021211-GEN-01

    บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

    แม้ว่าจะสามารถบู๊ตได้จาก DataTraveler แต่ไม่ใช่คุณสมบัติการทำงานที่ Kingston รองรับไดร์ฟเหล่านี้มีไว้เพื่อจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น

    FAQ: KTD-082913-GEN-27

    บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

    นี่เป็นข้อจำกัดของระบบไฟล์แบบ FAT32 ซึ่งมีการจำกัดจำนวนไฟล์ที่เก็บไว้ในไดเรกทอรีหลัก (root) ของไดรฟ์ หากต้องการโอนข้อมูลมายังไดรฟ์นี้มากขึ้น คุณต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

    ก) สร้างโฟลเดอร์ในไดเรกทอรีหลักของไดรฟ์ จากนั้นค่อยโอนข้อมูลทั้งหมดไปยังโฟลเดอร์ดังกล่าว หลังจากนั้น คุณจะสามารถโอนข้อมูลลงใน DataTraveler ได้มากขึ้น

    B) โอนข้อมูลในไดรฟ์ไปยังสื่อจัดเก็บข้อมูลอื่นเพื่อสำรองข้อมูล จากนั้นฟอร์แม็ตไดรฟ์ด้วยระบบไฟล์ exFAT หลังจากนั้น คุณจะสามารถโอนข้อมูลลงใน DataTraveler ได้มากขึ้น

    FAQ: KDT-010611-GEN-12

    บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

    Windows อาจไม่รู้จักไฟล์ MacOS Extended หรือแบบมาตรฐาน แก้ไขโดยฟอร์แมตไดรฟ์ใน macOS ด้วย MacOS DOS หรือระบบไฟล์ exFAT เพื่อให้สามารถใช้ได้กับทั้งสองระบบ

    คำเตือน: การฟอร์แมตเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดใน DataTraveler สำรองข้อมูลของคุณก่อนดำเนินการต่อ

    1. เสียบ DataTraveler เข้ากับเครื่อง macOS จากนั้นรอจนกระทั่งเชื่อมต่อ
    2. คลิกที่ "GO" จากแถบเมนู
    3. ดับเบิลคลิกที่ Utilities (หากไม่พบ Utilities ให้ดับเบิลคลิกที่ Applications จากนั้นดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ Utilities)
    4. ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Disk Utility
    5. จากกล่องโต้ตอบ Disk Utility คลิกหนึ่งครั้งที่พาร์ติชั่นใช้งานของ Kingston DataTraveler
    6. หมายเหตุ: จะมีรายการสองชุดสำหรับ DataTraveler ชุดแรกเป็นพาร์ติชั่นใช้งานและชุดที่สองเป็นป้ายกำกับไดรฟ์
    7. คลิกแท็บลบด้านขวาของหน้าจอ
    8. ใช้ส่วนแสดงรายการ Volume Format เลือก "MS-DOS File System" หรือ "exFAT” จากรายการ
    9. คลิก Erase
    หมายเหตุ: macOS 10.6.5 ขึ้นไปสามารถอ่านและเขียนไดรฟ์ exFAT ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ macOS ยังสามารถอ่านอย่างเดียวในไดรฟ์ NTFS ได้

    อุปกรณ์บางตัว (เครื่องเล่น MP3 กรอบภาพดิจิตอล ฯลฯ) ไม่สามารถอ่านไฟล์ NFTS หรือ exFAT ได้

    นอกจากนี้จะต้องอัปเดต Windows XP และ Vista เพื่อให้สามารถค้นข้อมูล exFAT ได้


    FAQ: KDT-010611-GEN-18

    บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

    Still Need Assistance?