เราสังเกตเห็นว่าคุณกําลังเยี่ยมชมเว็บไซต์ของสหราชอาณาจักร คุณต้องการเยี่ยมชมเว็บไซต์หลักของเราแทนหรือไม่?

อะไรคือความแตกต่างระหว่างการเข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์ เทียบกับแบบซอฟต์แวร์ สำหรับแฟลชไดรฟ์ USB?

การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์เทียบกับการเข้ารหัสซอฟต์แวร์

Kingston® Best Practice ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Kingstons สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด ผลิตภัณฑ์รุ่น Best Practice นี้สามารถเชื่อมโยงความแตกต่างของระบบเข้ารหัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อปกป้องไดรฟ์ USB ให้มีความปลอดภัยเต็มที่

ไดรฟ์ USB ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายโดยบริษัททั้งใหญ่และเล็กว่ามีความคุ้มค่าในหลาย ๆ ด้าน ไดรฟ์เหล่านี้มีคุณสมบัติโดดเด่นที่คุณสังเกตได้ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ไฟล์และพกพาข้อมูล ไปจนถึงการสำรองข้อมูลและการใช้ประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย

เนื่องจากความสะดวกและไม่ยุ่งยากในการพกพาของไดรฟ์ USB รุ่นใหม่ ๆ ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและสำคัญในไดรฟ์ USB จึงเกิดการสูญหายหรือถูกขโมยได้โดยง่าย เพื่อแก้ไขจุดด้อยต่าง ๆ ของไดรฟ์ USB ทั่วไปที่ต้องใช้เพื่อจัดเก็บและเคลื่อนย้ายข้อมูล Kingston จึงได้พัฒนาไดรฟ์ USB ที่มีความปลอดภัยและออกแบบมาสำหรับการใช้งานขององค์กรโดยเฉพาะ ไดรฟ์ USB เข้ารหัสความปลอดภัยสูงนี้ช่วยให้ธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กสามารถโอน ข้อมูลได้อย่างมั่นใจเต็มที่ การเข้ารหัสของไดรฟ์ USB สามารถทำได้สองรูปแบบ ผ่านฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ตามความต้องการ

การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์

  • ใช้โปรเซสเซอร์เฉพาะด้านในไดรฟ์ที่เข้ารหัส
  • โปรเซสเซอร์จะมีระบบออกตัวเลขสุ่มเพื่อจัดทำคีย์เข้ารหัส โดยต้องใช้รหัสผ่านของผู้ใช้เพื่อปลดล็อค
  • ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นโดยการลดภาระในการเข้ารหัสจากโฮสต์
  • ป้องกันข้อมูลที่สำคัญด้วยระบบเข้ารหัสจากฮาร์ดแวร์
  • การตรวจสอบยืนยันจะมีขึ้นในส่วนของฮาร์ดแวร์
  • ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งสำหรับแอพพลิเคชั่นขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถรองรับขอบเขตการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
  • การเข้ารหัสจะโยงกับอุปกรณ์เฉพาะ การเข้ารหัสจึง "ทำงานอยู่ตลอดเวลา"
  • ไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์ใน PC ที่เป็นโฮสต์
  • ป้องกันภัยคุกคามทั่วไปได้เต็มที่ เช่น Cold Boot, โปรแกรมอันตราย หรือการจู่โจมแบบ Brute Force

การเข้ารหัสซอฟต์แวร์

  • แชร์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ารหัสข้อมูลโดยใช้โปรแกรมอื่นในคอมพิวเตอร์ – คอมพิวเตอร์เป็นเงื่อนไขสำคัญด้านความปลอดภัย
  • ใช้รหัสผ่านผู้ใช้เป็นคีย์เข้ารหัสเพื่อกระจายข้อมูลแยกออกจากกัน
  • ใช้รหัสผ่านผู้ใช้เป็นคีย์เข้ารหัสเพื่อกระจายข้อมูลแยกออกจากกัน
  • อาจถูกคุกคามแบบ Brute Force ได้ คอมพิวเตอร์จะจำกัดจำนวนการถอดรหัสไว้แต่แฮคเกอร์ยังสามารถเจาะหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์และรีเซ็ตตัวนับดังกล่าวได้
  • ประหยัดกว่าสำหรับแอพพลิเคชั่นขนาดเล็ก
  • สามารถใช้ได้กับสื่อข้อมูลทุกชนิด