2021 คือปีที่หลาย ๆ คนตั้งตารอให้ผ่านพ้นไป จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลให้เกิดวัตถุดิบขาดแคลนทั่วโลก และกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนต่างคาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ดีกว่าในอนาคต เราย่างเข้าสู่ปีใหม่ เราได้พิจารณาการเปลี่ยนแปลง เทรนด์และผลกระทบต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2022 เรามีการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ และทำการศึกษาข้อมูลเฉพาะด้านเพื่อระบุปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดในภาพรวมทั่วโลก ต่อไปนี้เป็นข้อมูลคาดการณ์ที่สำคัญสำหรับปีใหม่นี้
3 ข้อคาดการณ์ของ Kingston สำหรับศูนย์ข้อมูลและระบบ IT สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในปี 2022
1. ปัญหาชิปขาดแคลนที่เกิดขึ้นทั่วโลกทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ต้องปรับแนวทางในการอัพเกรดของตน
นอกจากนี้ปัญหาในเครือข่ายการจัดหาเพื่อนำส่งสินค้าระหว่างประเทศก็ไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นแต่อย่างใด ตั้งแต่การจัดส่งผ่านเรือขนส่งคอนเทนเนอร์ไปถึงท่าเรือ การขนถ่ายขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำส่งสินค้าและวัตถุดิบจากท่า จนถึงปลายทางต่างส่งผลกระทบในวงกว้าง ในตลาดกลุ่มเทคโนโลยีส่วนใหญ่ นี่หมายถึงปัญหาการขาดแคลนชิปและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสายการผลิต อุปกรณ์สำหรับอัพเกรดและผลิตภัณฑ์อัพเกรดจึงไม่สามารถก้าวตามทันกลุ่มผู้ผลิตโปรเซสเซอร์ ภาวะขาดแคลนที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะส่งผลให้เกิดการชะลอตัวทั้งในกลุ่ม GPU หน่วยความจำ สื่อบันทึกข้อมูลบางประเภทและส่วนประกอบอีกหลายอย่าง
ศูนย์ข้อมูลอาจได้รับผลกระทบมากที่สุดในการรักษา SLA ของตนเองผ่านการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ จากปัญหาขาดแคลนสินค้า ทำให้มีทางเลือกการอัพเกรดอยู่สองทาง ได้แก่ การอัพเกรดเมื่อมีผลิตภัณฑ์จัดส่งและเร่งรัดกระบวนการจัดส่งผ่านทางเครื่องบิน หรือการพึ่งพาการจ้างผลิตภายในพื้นที่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคนิค ทางเลือกทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายสูง และมักเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาคอขวดของสินค้าขาดแคลนในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีทางเลือกที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ NAND เนื่องจากปัจจุบันการส่วนประกอบดังกล่าวสามารถจัดหาได้โดยผู้ผลิตสื่อบันทึกข้อมูลและหน่วยความจำแบบแฟลช ทางเลือกในการอัพเกรดที่ดีที่สุดสำหรับผู้จัดการศูนย์ข้อมูลจึงน่าจะเป็นการเลือกใช้ส่วนประกอบที่สามารถจัดหาได้ง่ายให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งได้แก่การเลือกอัพเกรดหน่วยความจำ การปรับปรุงสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช (เช่น NVMe หรือ SATA) และการปรับประสิทธิภาพด้านแบนด์วิธด้วยกระบวนการจัดสรรทรัพยากรส่วนเกิน (overprovisioning)
2. การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเงื่อนไขในการจัดซื้อเทคโนโลยีใหม่ ๆ
บทเรียนที่เราได้จาก SolarWinds, Kaseya หรือปัญหาจากแรนซัมแวร์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา: ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าข้อพิจารณาที่สำคัญไม่ใช่คำถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้า” แต่เป็น “เมื่อไร” ที่ระบบของคุณจะถูกคุกคาม การรักษาความปลดภัยเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาที่สำคัญในการจัดซื้ออุปกรณ์ด้าน IT เนื่องจากหน่วยงานเป็นจำนวนมากให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงและโอกาสในการถูกเจาะระบบ ผลจากสถานการณ์แพร่ระบาด ทำให้ทีมงานรักษาความปลอดภัยต้องเผชิญกับสถานการณ์การคุกคามระบบที่เพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเนื่องจากการทำงานที่บ้าน เครื่องมือต่าง ๆ เช่น ระบบตรวจรับรองแบบหลายชั้น ระบบ VPN และสื่อบันทึกข้อมูลคลาวด์แบบเข้ารหัสกลายเป็นเงื่อนไขภาคบังคับของอุตสาหกรรมหลาย ๆ กลุ่ม และได้กลายมาเป็นมาตรฐานของหน่วยงานด้าน IT หลาย ๆ แห่ง
คำถามสำคัญสำหรับหน่วยงานด้าน IT และการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันคือ: ค่าใช้จ่ายในการจัดระบบเข้ารหัสรองรับที่ซ้ำซ้อนคุ้มค่ากว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเมื่อถูกเจาะระบบและการแก้ไขปัญหาหรือไม่
กรณีการเจาะข้อมูลและการแฮกที่เกิดขึ้นล่าสุดส่วนใหญ่แสดงให้เห็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูระบบอาจสูงมาก เนื่องจากไม่ได้จำกัดแค่การทดแทนโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายหรือถูกละเมิดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความไม่ต่อเนื่องทางธุรกิจหรือค่าปรับที่เกิดขึ้นจากข้อมูลลูกค้าที่รั่วไหล ผู้บริหารงานด้าน IT และศูนย์ข้อมูลเป็นจำนวนมากจึงต้องพึ่งพาไดรฟ์เข้ารหัส รวมทั้งกำหนดกลยุทธ์เสริมต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อน
3. ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขั้นอย่างมหาศาลจะทำให้เกิดภาระอย่างหนักหน่วงสำหรับสื่อบันทึกข้อมูลระบบคลาวด์
โครงข่าย 5G ในปัจจุบันกำลังทำให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้บริโภคในการใช้งานข้อมูล เช่น การรับชมวิดีโอ การจัดทำเนื้อหาและแชร์ข้อมูลผ่านเครือข่ายโซเชียลและเว็บไซต์ต่าง ๆ ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงไม่ปีกี่ที่ผ่านมาและไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง ข้อมูลคาดการณ์ล่าสุดจาก Ciscoระบุว่าไลฟ์วิดีโอและข้อมูลที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่จะเติบโตขึ้นเป็น 15 เท่าภายในสิ้นปี 2022
จำนวนการเปิดดูเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลก็เป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่สำคัญในการรองรับการใช้งานสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลจากกลุ่มแอพสำหรับใช้งานทั่วไป บริการอย่าง TikTok ไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น แต่การเปิดโอกาสให้ผู้ชมสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้เช่นกันทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์แบบต่อเนื่องและทำให้ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่างมาก
เช่น ระยะเวลาการใช้อุปกรณ์พกพา 1 นาทีแบบมาตรฐานอาจใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลประมาณ 100-200MB แต่หากเป็นวิดีโอที่ได้รับความสนใจ (เช่น การเต้นรำ มิวสิควิดีโอหรือวิดีโอแบบโต้ตอบ) อาจมีการใช้ข้อมูลมากถึง 40-4,000,000 เวอร์ชั่นขึ้นอยู่กับความแพร่หลายของข้อมูลดังกล่าว จุดเริ่มต้นเพียง 100MB อาจกลายเป็น 400TB ได้อย่างไม่น่าเชื่อหากเป็นข้อมูลที่ติดกระแส
ทั้งนี้ไม่ใช่วิดีโอทุกชิ้นที่จะถูกเก็บรักษาไว้ตลอดไป และแอพพลิเคชั่นบางส่วนมีการเก็บรักษาข้อมูลภายในเวลาที่กำหนด แต่ความยืดหยุ่นของบริการจัดทำผลงานวิดีโอเหล่านี้ทำให้ศูนย์ข้อมูลต้องมีการจัดสรรพื้นที่เพื่อรองรับการใช้งานแบบแปรผันโดยไม่ส่งผลต่อค่าหน่วงเวลาในการเปิดเล่นเพื่อให้การสืบค้นเป็นไปอย่างราบรื่น
แม้ว่าอนาคตของอุตสาหกรรมของเราจะมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนหลายอย่าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดต้องถามหมอดูว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง นี่คือเวลาสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ในการทบทวนเป้าหมายและการเตรียมความพร้อมสู่ปี 2022
#KingstonIsWithYou
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
SSD ที่เหมาะสมมีความสำคัญ
การเลือก SSD ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก SSD แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน SSD สำหรับเดสก์ท็อปนั้นจะใช้กับศูนย์ข้อมูลองค์กรที่ต้องการ SSD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าไม่ได้ สำหรับศูนย์ข้อมูลแล้ว การเลือก SSD ที่มีเสถียรภาพในการทำงานที่เหมาะสมและมีค่าหน่วงเวลาต่ำซึ่งออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่และศูนย์ข้อมูลโดยเฉพาะนั้นคือปัจจัยสำคัญเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เชื่อถือได้และสม่ำเสมอ
ความเป็นจริงของการทำงานในองค์กรขนาดใหญ่: ฉันควรเปลี่ยนมาใช้ NVMe หรือไม่
Cameron Crandall จาก Kingston พร้อมช่วยคุณตัดสินใจว่าคุณควรปรับเปลี่ยนสื่อบันทึกข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ของคุณเป็น NVMe SSD หรือไม่
SSD ที่เหมาะสมมีความสำคัญ
การเลือก SSD ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก SSD แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน SSD สำหรับเดสก์ท็อปนั้นจะใช้กับศูนย์ข้อมูลองค์กรที่ต้องการ SSD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าไม่ได้ สำหรับศูนย์ข้อมูลแล้ว การเลือก SSD ที่มีเสถียรภาพในการทำงานที่เหมาะสมและมีค่าหน่วงเวลาต่ำซึ่งออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่และศูนย์ข้อมูลโดยเฉพาะนั้นคือปัจจัยสำคัญเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เชื่อถือได้และสม่ำเสมอ
ทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่เทียบกับการคาดการณ์การใช้งาน: ทำไม SSD ที่มีค่าหน่วงเวลาที่คาดการณ์ได้จึงมีความสำคัญ
องค์กรขนาดใหญ่บางแห่งเลือกใช้ SSD ไคลเอนท์ในการรองรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่มีการทำงานอย่างหนัก และเลือกที่จะเปลี่ยนไดรฟ์เมื่อไม่สามารถรองรับมาตรฐานการทำงานได้อีกต่อไป เรียนรู้สาเหตุที่การบริหารจัดการต้นทุนผิด ๆ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและเพราะเหตุใดไดรฟ์ระดับองค์กรจึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหน่วยงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ